เกร็ดเล็กๆเกี่ยวกับการฟอกเงิน
มาเรียนรู้จักกับคำว่าการฟอกเงินกันเถอะ
การฟอก ความหมายโดยทั่วไป
คือ การทำให้สะอาด อาจจะใช้บรีสหรือผงซักฟอกที่มีคุณภาพสูงในการซักฟอกให้สะอาด
ไม่มีคราบสกปรกหลงเหลืออยู่ให้เห็น
ส่วนการฟอกเงินก็คล้ายๆกันครับ
ต่างกันตรงที่สิ่งที่นำมาฟอกนั้นไม่ใช้เสื้อผ้าแต่เป็นเงินดังนั้นการฟอกเงินจึงจะต้องมีลักษณะที่ซับซ้อนแตกต่างกันออกไปแต่ที่เหมือนกัน
ก็ตรงที่ทำเงินที่ได้มาโดยสกปรกมาทำให้มันสะอาดยิ่งขึ้นเท่านั้นเองครับ
มาดูความหมายที่แท้จริงของคำว่า “ฟอกเงิน” กันครับ
การฟอกเงิน (
Money Laundering ) คือ การเปลี่ยนทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิด
หรือทรัพย์สินได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ( เงินสกปรก) นำมาเปลี่ยนสภาพเพื่อปิดบังหรืออำพราง
ลักษณะที่แท้จริงของแหล่งที่มาของเงินนั้น เช่น การจำหน่าย,การโอน, การทำให้ได้ซึ่งสิทธิใดๆมาโดยถูกต้องตามกฏหมาย
เช่น นำเงินที่ได้มาจากการขายยาเสพติด นำไปซื้อที่ดิน
ที่ดินที่ได้มาก็ถือว่าเป็นสิทธิ์ที่ได้มาถูกต้องตามกฏหมายก่อนนำที่ดินมาขาย เงินที่ได้จากการขายที่ดินก็กลายเป็นเงินที่บริสุทธิ์
*การฟอกเงินนั้นเงินนั้นก็ไม่ได้หนี้หายไปไหน ตัวผู้กระทำความผิดยังคงเป็นจากของเงินนั้น
หรือทรัพย์สินนั้นอยู่
วิธีการฟอกเงิน
1. ซุกซ่อนเงินที่ผิดกฎหมายนี้ไว้ก่อน เพื่อรอเวลานำออกมาใช้
เช่นการฝังดิน เก็บไว้ในห้องลับ รอเวลาทะยอยนำออกมาใช้
หรือแปรสภาพตามเงื่อนไขและสถานการณ์ที่ต้องใช้้เงิน
วิธีนี้เป็นวิธีหลักๆพื้นฐานเลย เพราะเหล่าอาชญากรมักจะมีเงินมากมายอยู่แล้ว
จึงไม่จำเป็นต้องนำเงินที่ได้มาอย่างผิดกฏหมายออไปใช้่โดยทันที
2. นำเงินไปซื้อทองคำ
เป็นก็วิธีที่นิยมอันดับต้นๆ
แต่ต้องเป็นการทะยอยซื้อที่ละเล็กน้อย เพื่อไม่ให้เป็นที่สังเกต
แต่หากเป็นพวกอาชญากรที่มีเครือข่ายเส้นสาย จะใช้วิธีที่เรียกว่า ไซฟ่อนเงิน
โดยใช้ ‘โพยก๊วน’ ผ่านร้านทอง และบริษัททัวร์ (การโอนเงินนอกระบบ ผ่าน
“ตัวแทนหักบัญชี” ซึ่งทำหน้าที่เป็นคนกลางเสมือนเป็นนายธนาคารในการรับโอนหรือส่งมอบเงินให้แก่บุคคลที่ผู้ใช้บริการโพยก๊วนระบุ
ซึ่งผู้รับเงินอาจจะเป็นผู้ใช้บริการโพยก๊วนเอง
หรือบุคคลอื่นๆที่ผู้ใช้โพยก๊วนระบุไว้ก็ได้
โดยผู้ที่มีสิทธิจะได้รับเงินจะต้องเป็นบุคคลที่มี ‘หลักฐานการรับเงิน’
ที่เรียกกันว่า ‘โพย เท่านั้น) ซึ่งจะมีร้านทองในเยาวราช ซึ่งจะมีอยู่ 4-5 ร้านที่รับทำโพยก๊วน และบริษัททัวร์ อักษรย่อ ร.
3. นำเงินใส่ในบัญชีลับและนำมาปั่นหุ้นในตลาดหุ้น
วิธีนี้อาชญากรจะมีเครือข่ายพวกพ้องที่เป็นกลุ่มทุนใหญ่
การฟอกเงินผ่านตลาดหุ้นนั้นง่ายมาก โดยซื้อหุ้นในเมืองไทย ในชื่อใครก็แล้วแต่
แล้วก็โอนไปรวมอยู่ 1 พอร์ต
ส่วนใหญ่เขาจะซื้อหุ้นของบริษัทตัวเอง หรือหุ้นที่มีอยู่ในมือเขาเอง
โดยเลือกหุ้นตัวใหญ่ที่ราคาเคลื่อนไหวไม่มาก
ซื้อเสร็จก็เอาไปรวมอยู่ในพอร์ตเดียวกัน เช่น 10 ล้านหุ้น
เป็นเงินรวม 2 พันล้านบาท ซื้อ ปตท. หุ้นละ 300 บาท ซื้อ 1 ล้านหุ้นก็ 300 ล้านบาท
จากนั้นก็ไปเปิดบัญชีไว้ที่เมืองนอก แล้วเซ็นโอนหุ้นไปอีกพอร์ตหนึ่ง
คือแค่เซ็นแกร๊กเดียวหุ้นของเขาก็ไปอยู่ที่เมืองนอกแล้ว
แล้วก็ให้พวกเดียวกันมาซื้อหุ้นของตัวเองในต่างประเทศ เพื่อที่จะได้มีหลักฐานการรับเงินที่โน่น
เงินนี่ก็ฟอกผ่านตลาดหุ้นเรียบร้อยแล้ว เป็นการฟอกเงินโดยมีกฎหมายรองรับ
4. นำเงินสกปรกไปลงทุนในธุรกิจหรือกิจการค้าที่ชอบด้วยกฎหมาย
อาชญากรจะนำเงินที่ได้มาโดยมิชอบ ไปลงทุนในกิจการต่างๆ
เพื่อแปลงสภาพให้ได้ผลกำไร หรือวิธีการเงินต่อเงิน นั่นเอง
เพียงแต่เป็นการเอาเงินชั่วไปต่อให้ได้มาซึ่งเงินสะอาด
อาจจะลงทุนภายใต้ชื่อของตนเอง หรือเป็นหุ้นส่วนใหญ่ที่ไม่แสดงตัวต่อสาธารณะ
หรือกระจายเงินให้ลูกน้องไปลงทุนในธุรกิจของตนเอง
5. รับจำนอง-ขายฝากที่ดิน ทรัพย์สิน
เนื่องจากมีเงินสดจำนวนมากในมือ จึงใช้วิธีให้ปล่อยรับจำนองทรัพย์สินต่างๆ
เช่น บ้าน ที่ดิน รถยนต์ และหากมีการหลุดจำนอง
ก็นำทรัพย์สินไปขายกลับมาเป็นเงินสะอาด และยังทำกำไรได้อีกต่อหนึ่งด้วย
6. จ่ายเป็นส่วยให้เจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อเปิดช่องทางทำผิดกฏหมายต่อไปเรื่อยๆ
อาชญากรจะใช้เงินเพื่อกรุยทางสร้างผลประโยชน์ต่อเนื่องให้ตนเอง
ตามแต่ช่องทางจะเอื้อให้มีการสมรู้ร่วมคิดในการทำผิด
เช่นหากเป็นบ่อนการพนันก็มีการจ่ายส่วยให้กับตำรวจในท้องที่ หากเป็นการขนยาเสพติด
ก็จะเป็นการจ่ายให้กับผู้ดูแลเส้นทางลำเลียง หรือด่านตรวจต่าง
7. นำไปซื้อเสียงทางการเมือง
หากอาชญากรเป็นนักการเมือง หรือมีเครือข่ายทางการเมือง
ก็จะนำเงินส่วนนี้ไปสนับสนุนกลุ่มการเมือง ในการซื้อเสียง
วิธีนี้จะทำให้ได้มาซึ่งอำนาจที่จะเอื้อประโยชน์ให้กับตนเองและพวกพ้องในอนาคต
ซึ่งถือเป็นการฟอกเงินทางอ้อมอีกวิธีหนึ่ง
8. นำไปเล่นการพนัน
ถ้าเป็นโจรตัวเล็กที่อยากฟอกเงินไม่กี่สิบล้านบาทจะนิยมไปเล่นบ่อนตามชายแดน
จะเดินทางไปเล่นหลายๆ ครั้ง ฟอกเงินครั้งละไม่กี่ล้านบาท
ส่วนใหญ่พวกนี้จะชอบเล่นไพ่อยู่แล้ว
เล่นเสียก็ไม่เป็นไรเพราะเงินหาง่าย
แต่ถ้ามือขึ้นเล่นได้เยอะก็รีบแลกชิพกลับเป็นเงินที่ถูกต้องเพราะได้มาจากชนะพนัน
แต่ถ้าเป็นขาใหญ่วิธีเล่นจะแนบเนียนมากกว่าเช่น ไปเปิดบริษัททำการค้าที่เมืองนอก ทั้งฮ่องกง สิงคโปร์ อเมริกา จากนั้นก็โอนเงินไปทำธุรกิจ เช่น ซื้อสินค้าเข้าเมืองไทยต้นทุนชิ้นละ
1,000 บาท อ้างในเอกสารว่าต้นทุน 1 หมื่นบาท เอาเงินที่เหลือจ่ายอีก 9,000 บาทไปเก็บไว้ในธนาคารต่างประเทศ พอถึงเวลาที่เหมาะสมก็โอนเงินไปบ่อนกาสิโนขอเล่นพนัน
พอเล่นได้ก็แลกชิพโอนเงินกลับมาเมืองไทยถือเป็นเงินสะอาดทันที
9. นำไปซื้ออสังหาริมทรัพย์
และโอนกรรมสิทธิ์ให้บุคคลใกล้ชิด
วิธีนี้เป็นการฟอกเงิน
โดยเปลี่ยนเงินผิดกฏหมายให้เป็นทรัพย์สินที่ถูกต้อง
และอำพรางปกปิดเพื่อไม่ให้เป็นที่ผิดสังเกตโดยการกระจายกรรมสิทธ์ิในการถือครองไปยังญาติสนิท
คนใกล้ชิด
10.
นำไปก้อนใหญ่ไปกระจายเปิดบัญชี ในชื่อคนอื่น
เพื่อไม่ให้เป็นการผิดสังเกต อาชญากรจะนำเงินก้อนใหญ่
แบ่งกระจายให้ญาติสนิท หรือภรรยาที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส หรือคนใช้
ลูกน้องที่อยู่ในอาณัติ เปิดบัญชีเงินฝากหลายๆบัญชี
เพื่อกระจายเงินให้เป็นก้อนเล็กลง
ไม่ให้เป็นที่สังเกตจากบรรดาธนาคารและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
จากนั้นจึงค่อยรอเวลานำเงินมาใช้ตามโอกาสที่ต้องการต่อไป
พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542
องค์ประกอบความผิดฐานฟอกเงิน
มาตรา 5 ผู้ใด
(1) โอน รับโอน
หรือเปลี่ยนสภาพทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดเพื่อซุกซ่อนหรือปกปิดแหล่งที่มาของทรัพย์สินนั้น
หรือเพื่อช่วยเหลือผู้อื่นไม่ว่าก่อน ขณะหรือหลังการกระทำความผิด
มิให้ต้องรับโทษหรือรับโทษน้อยลงในความผิดมูลฐาน หรือ
(2) กระทำด้วยประการใดๆ เพื่อปกปิดหรืออำพรางลักษณะที่แท้จริงการได้มาแหล่งที่ตั้ง
การจำหน่าย การโอน การได้สิทธิใดๆ ซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด
มาตรา9 ผู้ใดสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน
ต้องระวางโทษกึ่งหนึ่งของโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น
ถ้าได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกันตามวรรคหนึ่ง
ผู้สมคบกันนั้นต้องระวางโทษตามที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น
ในกรณีที่ความผิดได้กระทำถึงขั้นลงมือกระทำความผิด
แต่เนื่องจากการเข้าขัดขวางของผู้สมคบทำให้การกระทำนั้นกระทำไปไม่ตลอดหรือกระทำไปตลอดแล้วแต่การกระทำนั้นไม่บรรลุผล
ผู้สมคบที่กระทำการขัดขวางนั้น คงรับโทษตามที่กำหนดไว้ในวรรคหนึ่งเท่านั้น
ถ้าผู้กระทำความผิดตามวรรคหนึ่งกลับใจให้ความจริงแห่งการสมคบต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ก่อนที่จะมีการกระทำความผิดตามที่ได้สมคบกัน
ศาลจะไม่ลงโทษผู้นั้นหรือลงโทษผู้นั้นน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้เพียงใดก็ได้
บทลงโทษความผิดฐานฟอกเงิน
มาตรา 60 ผู้ใดกระทำความผิดฐานฟอกเงิน
ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท
หรือทั้งจำทั้งปรับ
หวังว่าข้อมูลเกี่ยวกับการฟอกเงินที่นำมาฝากคงจะเป็นความรู้ให้กับทุกท่านไม่มากก็น้อยนะครับ ไว้โอกาสหน้าถ้ามีเวลาและอารมณ์ + ความนิยมของทุกท่าน จะพยายามหาสาระดีๆมาเพิ่มเติมความรู้ให้อีกนะครับ