วันพุธที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2560

วัดธรรมกายหลอกให้คนทำบุญจนหมดตัวจริงหรือ?

วัดธรรมกายหลอกให้คนทำบุญจนหมดตัวจริงหรือ?


วัดธรรมกายหลอกให้คนทำบุญจนหมดตัวจริงหรือ?เป็นคำถามที่น่าสนใจมากครับ เป็นคำถามที่หลายๆคนเขาอยากจะรู้จะเห็นหรือที่เรียกว่าพวกสอดรู้สอดเห็นเรื่องของชาวบ้าน บางมีอคติกับวัดพระธรรมกายเหมือนกับว่าอดีตชาติ เคยเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาเลยทีเดียว แค่ได้ยินชื่อว่าวัดพระธรรมกายเท่านั้น อารมณ์แห่งความเกลียดชังมันมาจากไหนไม่รู้ พุงเข้ามาแบบชนิดที่ว่าจะกินเลือดกินเนื้อกันให้ได้ จึงได้พยายามที่หาทุกวิถีทางเพื่อที่จะทำให้วัดนี้จมลงกับดินเลยก็ว่าได้ ทั้งๆที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ไม่เคยรู้ด้วยซ้ำว่าวัดนี้เขาเป็นอย่างไร
ก็เพราะคำว่าอคติตัวเดียวเท่านั้นแหละครับที่ทำให้คนเราทำได้ทุกอย่างเพื่อที่จะเอาชนะอีกฝ่ายหนึ่งหรือทำให้อีกฝ่ายหนึ่งเละไปต่อหน้าต่อตาถึงจะสาแกใจ
ผมว่าวัดธรรมกายเอง เขาก็ไม่รู้ตัวหรอกครับว่าเขาไปเหยียบสันเท้าใคร แต่สิ่งที่เขาทำไปเขาก็คิดว่ามันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดและเกิดประโยชน์ต่อสังคมและต่อพระพุทธศาสนา เงินทุกบาททุกสตางค์ที่เขาได้รับบริจาคมา เขาก็เอาไปทำประโยชน์เพื่อสังคมทั้งนั้น เช่น
  1. จัดสอบธรรมะทางก้าวหน้า , ทำโครงการเด็กดีV - Star เพื่อฟื้นฟูศีลธรรมให้กับเด็กและเยาวชน เพื่อที่ให้เด็กเหล่านั้นเติบโตขึ้นมาเป็นคนดีมีศีลธรรม ไม่คิดที่จะโกงกินบ้านเมือง
  2. โครงการบวชพระทั่วประเทศ เพื่อที่จะทำให้วัดที่มันร้างอยู่เกือบหมื่นวัดกลายเป็นวัดรุ่งมีพระไปจำพรรษาอยู่ เพื่อไปสร้างพลังศรัทธาของชาวพุทธให้กลับคืนมา สู่สังคมไทยสืบต่อไป
  3. โครงการตักบาตรช่วยเหลือพระ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ถ้าคนไทยไม่ช่วยคนไทยด้วยกันแล้วจะให้ใครหน้าไหนมาช่วยละครับว่าไหม อาหารตักบาตรที่ได้ก็ทำให้พระที่อยู่ที่โน่นมีชีวิตอยู่เพื่อประกอบศาสนกิจของสงฆ์ได้ในยามที่ท่านไม่สามารถออกไปบิณฑบาตได้
  4. โครงการถวายไทยธรรมแก่พระ 3 จังหวัดชายแดนใต้ และมอบปัจจัยช่วยเหลือครูที่ยืนหยัดสอนหนังสือเพื่ออนาคตของชาติ การที่วัดพระธรรมกายได้มอบเงินหรือสิ่งของเล็กๆน้อยๆให้กับพระและครู ก็เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้พระท่านยืนหยัดในการปกป้องพระพุทธศาสนาให้ยังคงอยู่ต่อไป ถ้าจะว่าไปแล้วตอนนี้ก็ไม่มีใครอยากจะเอาชีวิตไปเสี่ยงในพื้นที่ที่มีแต่อันตรายอย่าง 3จังหวัดภาคใต้หรอกครับ แม้แต่จะมอบบ้านพร้อมที่ดินให้ฟรีๆ เป็นผมผมก็บอกไปทันทีเลยว่าไม่รับครับ แต่พระที่นี่ท่านยังอยู่เพื่อปกป้องพระพุทธศาสนาให้คงอยู่และไม่ยอมทอดทิ้งวัดไปไหน แม้ว่าจะมีข่าวฆ่าพระ ฆ่าชาวไทยพุทธอยู่เกือบทุกวัน แม้จะรู้ว่าชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้ายจะตายเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แต่ท่านก็ยังยืนหยัดอยู่ต่อไป
  5. โครงการอุบาสิกาแก้ว เพื่อช่วยให้คนไทยรู้จักแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาแม้จะเป็นผู้หญิงก็สามารถที่จะศึกษาพระธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ ศึกษากิจวัตรประจำวันของชาวพุทธ และปลูกฝังให้ชาวพุทธเกิดความรักและหวงแหวนวัดและพระพุทธศาสนายิ่งขึ้น เพื่อให้รู้ว่าหน้าที่ของชาวพุทธที่แท้จริงต้องทำอย่างไร
  6. โครงการบวชสามเณร ก็เพื่อปลูกฝังให้เด็กรักวัดและติดวัด สอนให้เด็กรักพ่อแม่ สอนให้เด็กเป็นคนมีศีลมีธรรมและเป็นคนดีของสังคมสืบไป

นอกจากนี้ยังมีโครงการอื่นๆอีกมากมายที่วัดพระธรรมกายจัดขึ้นมา ที่ก่อให้เกิดประโยชน์แก่สังคม แต่โครงการเหล่านี้จะใช้ปัญญาอย่างเดียวคงไม่พอหรอกครับ มันก็ต้องมีทุนทรัพย์ที่จะมาคอยเกื้อหนุนเพื่อที่จะมาช่วยผลักดันให้โครงการต่างๆเหล่านี้บรรลุเป้าหมายไปได้ หลายๆคนคงอยากจะถามว่าทำไมต้องใช้เงินมากมายด้วย ก็ตอบได้ทันทีว่าของทุกอย่างขอกันฟรีๆได้ด้วยหรือครับ ถ้าไม่ใช้เงินซื้อ ไม่ว่าจะเป็นค่ารถ ค่าอาหาร ค่าเดินทาง อุปกรณ์ต่างๆมันต้องใช้เงินซื้อทั้งนั้น ดังนั้น การที่คนเขาทำบุญกับวัดเขาก็เห็นแล้วละว่าวัดนี้เขาเอาเงินไปทำงานจริงๆ เงินที่เขาทำมาเกิดประโยนช์ต่อสังคมจริงๆ นี่ก็คงเป็นสาเหตุที่ทำให้คนเกิดความเลื่อมใส ศรัทธาและอยากจะทำบุญที่วัดนี้กัน เพราะสิ่งที่วัดทำออกมามันเห็นเป็นรูปเป็นร่างและได้ผลจริงๆ ไม่ใช่ทำขึ้นมาเพื่อหลอกเอาเงินอย่างที่ใครหลายๆคนมอง เอาเงินอย่างที่ใครหลายๆคนมอง
ในส่วนที่หลายๆคนบอกว่าวัดนี้สอนให้คนทำบุญจนหมดตัวนั้น บ้าหรือเปล่า ใครจะโง่ขนาดนั้น คนที่เข้าวัดพระธรรมกายมีไม่ใช่มีเฉพาะคนรวย แต่คนที่เข้าวัดนี้หลากหลายอาชีพ ตั้งแต่กรรมกรไปจนถึงนักธุรกิจ ตั้งแต่คนจนไปจนถึงมหาเศรษฐี ถ้าบอกว่าสอนให้คนทำบุญจนหมดตัวนี้คงจะไม่ใช่แล้วละครับ คนจนเขาจะไปเอาเงินที่ไหนมาทำละ เขาก็หาเช้ากินค่ำ ที่มาวัดเพราะเขาเห็นว่าวัดนี้สอนดี สอนให้คนเป็นคนดี บางคนมาวัดไม่เคยทำบุญเลยก็มี มาทานข้าววัดเพราะวัดนี้เขามีโรงทาน มีอาหารให้กินฟรีทุกวัน ส่วนคนที่มีฐานะตั้งแต่ระดับปานกลางถึงมหาเศรษฐีนี่ไม่ต้องพูดถึงครับ คนเหล่านี้ต่างก็มีการศึกษาทั้งนั้นครับ จบกันมานี่อย่างน้อยก็คงไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีหรอกครับ และสูงกว่านั้นก็ระดับด็อกเตอร์ไปเลย บางคนจบจากเมืองนอกเมืองนามาด้วยซ้ำ ปัญญาระดับคนพวกนี้มีหรือจะยอมให้ตนเองถูกหลอกได้ง่ายๆ ถ้าไม่ได้เห็นในสิ่งที่วัดนี้ทำจริงๆว่ามันเกิดประโยชน์อย่างไร รับรองได้เลยว่าเงินแม้แต่กะตังค์เดียวก็ไม่ได้แอ้มของเขาหรอกครับ ว่าไหม


ผมว่านะการเอาเงินมาทำบุญที่วัด มันก็ดีกว่าเอาเงินไปเล่นการพนัน หรือสิ่งอบายมุขต่างๆด้วยซ้ำ เพราะนอกจากเราจะได้บุญแล้ว มันยังทำให้คนอื่นๆเขาได้รับประโยชน์จากเงินของเราด้วย ตรงกันข้ามกับการเอาเงินไปให้กับสิ่งอบายมุข นอกจากจะหมดตัวแล้ว สิ่งที่แถมมาด้วยคือหนี้สินมากมาย บางคนถึงขนาดต้องขายรถขายบ้าน เพื่อที่จะเอาเงินไปปรนเปรอะให้กับกิเลสตัณหาของตน ซึ่งนอกจากจะหมดตัวแล้วยังทำให้เกิดความทุกข์ บางคนเป็นบ้าไปเลยก็มี สิ่งเหล่านี้ยังทำให้เกิดปัญหาทางสังคมตามมาอีกมากมาย บางทีเป็นปัญหาระดับชาติระดับประเทศเลยก็ว่าได้ เช่น ปัญหาลักขโมย, ปัญหาอาชญากรรม, ปัญหาครอบครัวแตกแยก, ปัญหาการหย่าร้าง, ปัญหาคอร์รัปชั่น ฯลฯ บางคนถึงขนาดคิดสั้นฆ่าตัวตายเลยก็มี และยังมีอื่นๆอีกมากมายซึ่งก็มีให้เห็นกันเกือบทุกวันในหน้าข่าวหนังสือพิมพ์ของไทยเรา ขึ้นหน้าหนึ่งกันเกือบทุกฉบับเลยทีเดีย

ถามว่าคนเหล่านี้เขาเข้าวัดพระธรรมกายไหม? ก็ไม่ ถามอีกว่าถ้าไม่ได้เข้าวัดพระธรรมกายแล้วทำไมยังหมดตัวอยู่ล่ะ นี่เป็นคำถามที่ให้ทุกคนเอากลับไปคิดนะครับ
ผมว่าถ้าคนวัดพระธรรมกายเขาทำบุญหมดตัวจริงอันนี้มันก็คงเป็นสิทธิ์ของเขาแล้วละ และคงเป็นการตัดสินใจของเขาเองคงไม่เกี่ยวอะไรกับวัดแล้วละ และทางวัดเองเขาก็คงไม่รู้หรอกว่าคนนี้มีเงินเท่าไหร่ ทำแล้วจะหมดตัวไหม มันขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเขาเองทั้งหมด เพราะเงินก็เงินเขา กระเป๋าก็กระเป๋าเขา เขาจะหยิบออกมาเท่าไหร่มันก็เรื่องของเขา ไม่มีใครเป็นบ้าเอากระเป๋าเงินของตนยื่นให้คนอื่นหยิบเอาเงินของตัวเองไปใช้หรอกนะว่าไหม
แต่สำหรับผมแล้ว ผมว่าคงไม่มีใครบ้าเอาเงินมาทำบุญจนหมดตัวหรอก อย่างน้อยสิ่งแรกที่เขาจะนึกถึงก็คือครอบครัว ถ้าเขาทำบุญหมดตัวแล้วครอบครัวเขาจะกินอะไรละว่าไหม ผมเองก็คิดถึงครอบครัวเป็นหลักเลย ส่วนเรื่องทำบุญก็ตามศรัทธาแต่ไม่ให้ลำบากตน มีก็ทำไม่มีก็ไม่ทำ ก็มันเป็นสิทธิ์ของผมว่าจะทำหรือไม่ทำ ผมตัดสินใจเองไม่มีใครกล้ามาตัดสินใจแทนผมหรอก
เขียนมาก็ยาวนานมากแล้ว อ่านจนเบื่อกันไปข้างหนึ่งเลยทีเดียว ที่เขียนมานี่ก็ไม่มีอะไรหรอกครับ แค่เห็นความไม่เป็นธรรมเกิดขึ้นกับวัด วัดนี้เท่านั้นเอง เห็นด่าๆกันมากมายในหน้าโซเชียล ก็เลยขอเอี่ยวหน่อยหนึ่ง แต่!! ว่าไหม คนเราก็น่าแปลกนะครับ เรื่องของตัวเองกับไม่ชอบให้ใครมายุ่งแต่ทำไมเรื่องของคนอื่นถึงชอบไปยุ่งเรื่องของเขากันนัก

อันที่จริงเงินมันก็เงินของเขาป่ะ เขาจะทำอะไรมันก็เรื่องของเขาป่ะ จะเป็นเดือดเป็นร้อนแทนเขาทำไม แบบนี้มันเข้าลักษณะที่ว่า "คนทำไม่มีปัญหา คนที่ปัญหาคือคนที่ไม่ได้ทำ" พูดง่ายๆคือเจ้าของเงินจริงๆเขาไม่มีปัญหา แต่คนที่มีปัญหาที่เป็นเดือดเป็นร้อนกันอยู่ทุกวันนี้คือคนอื่นที่ไม่ใช่เจ้าของทั้งนั้น ตัวเองไม่ได้ทำแต่กับเดือดร้อนแทนคนอื่น เป็นห่วงเงินในกระเป๋าคนอื่นเขาซะงั้น น่าสงสารจริงๆ
ยิ่งเขียนก็ยิ่งยาว เอาเป็นว่าขอจบไว้เพียงแค่นี้ก่อนแล้วกันครับ ส่วนท่านใดที่มีข้อสงสัยอะไรก็เอาไว้เจอกันครั้งหน้าแล้วกันนะครับ ขอบอกว่าที่เขียนมานี่ไม่ได้แก้ต่างให้ใคร แต่ผมแค่เขียนตามความเป็นจริง ยังมีหลายอย่างที่คุณยังไม่รู้เกี่ยวกับวัดพระธรรมกาย ถ้าคุณรู้จักวัดนี้มากเท่าไหร่ความคิดแย่ๆที่เกิดขึ้นอยู่ในใจของคุณในตอนนี้คงไม่เกิดขึ้นแน่นอน แต่ก็อยู่ที่ว่าคุณจะปล่อยให้เหตุผลอยู่เหนืออคติ หรือจะปล่อยให้อคติอยู่เหนือเหตุผลก็เท่านั้นเอง

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น